เคล็ดไม่ลับในการดูแลผิวพรรณ เพื่อให้คุณดูดีที่สุดเสมอ แม้จะต้องเผชิญกับสายฝนโหมกระหน่ำ
ดูแลผิวอย่างไรดี
หน้าฝนเป็นห้วงเวลาของการพลิกฟื้นผืนดินอันแห้งแล้ง เป็นห้วงเวลาของการเจริญเติบโตของต้นไม้ แต่ความชื้นในอากาศที่เพิ่มสูงขึ้นในหน้านี้ ก็อาจส่งผลกระทบหลายยอย่างต่อผิวคุณมันอาจทำให้ผิวของคุณมันเยิ้มเพิ่มขึ้นทันทีทันใด หรือแห้งและขาดความชุ่มชื้นก็ได้ แต่อย่ากังวลไป เรามีเคล็ดลับหลากหลายที่จะช่วยให้คุณเป็นเจ้าของผิวผุดผ่องได้เช่นเดิม
· ความสะอาดสำคัญที่สุด ความชื้นในอากาศที่เพิ่มขึ้นในหน้านี้ ทำให้ความสกปรกและมลภาวะถูกดึงเข้ามาติดอยู่กับคราบเหงื่อ พร้อมกับแบคทีเรียที่เติบโตได้ดีท่ามกลางความชื้น การทำความสะอาดผิวจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ควรเลือกใช้เครนเซอร์อ่อน ๆ เพื่อให้ผิวแห้งตึง ตามด้วยโทนเนอร์แบบปราศจากแอลกอฮอล์ เพาะความชื้นที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้
Extra Tip : หลังล้างหน้า ใช้ก้อนน้ำแข็งถูให้ทั่วใบหน้าราว 10-15 นาที มันจะช่วยลดโอกาสที่เหงื่อจะออก และยังช่วยให้เมกอัพติดทนนานขึ้นด้วย
· ผิวหมองคล้ำ ปัญหาอย่างหนึ่งที่เรามักจะพบในหน้าฝนก็คือ ผิวที่หมองคล้ำและขาดชีวิตชีวา นี่เกิดมาจากความชื้นในอากาศที่เพิ่มสูงขึ้น การกระจายความชื้นที่ไม่สม่ำเสมอ และการผลัดเซลล์ผิวที่แย่ลง นอกจากากรทำความสะอาดแล้ว เราจึงต้องช่วยในการผลัดเซลล์ด้วยการใช้สครับ และควรเพิ่มเติมทรีตเมนต์เพื่อช่วยเพิ่มความเปล่งปลั่งให้ผิวหน้า เช่น การใช้มาส์กเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นกระจ่างใส นอกจากนี้ ความชุ่มชื่นที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เรารู้สึกเหมือนไม่ต้องการความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้นและอาจลดการใช้มอยสเจอไรเซอร์ลง ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะผิวยังคงต้องการความชุ่มชื้นอยู่เสมอ หากอาจเปลี่ยนมาใช้มอยสเจอไรเซอร์ที่มีเนื้อบางเบาหรือมีส่วนผสมของน้ำเป็นหลักออเพื่อไม่ให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะหรือใบหน้าเป็นมันวาว
· การปกป้องผิวสำคัญเสมอ ในช่วงหน้าฝน เรามักจะละเลยผิวของเรา เพราะท้องฟ้ามักมืดครึ้มไม่ค่อยเห็นแสงแดดจัดจ้า ทำให้หลายคนอาจคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดด แต่ในความเป็นจริงก็คือ รังสียูวีที่มองไม่เห็น ยังคงแทรกผ่านก้อนเมฆลงมาทำร้ายผิวเราได้เช่นเดิม ฉะนั้น การใช้ครีมกันแดดจึงยังคงเป็นขั้นตอนสำคัญที่คุณไม่เคยละเลยไม่ว่าในฤดูกาลใดก็ตาม
ที่มา นิตยสาร Lisa
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น